วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เทคนิคการใช้ผังกราฟฟิค




เทคนิคการใช้ผังกราฟฟิค
                1. ผังความคิด (A Mind Map)
                2. ผังมโนทัศน์ (A Concept Map)
                3.ผังแมงมุม (A Spider Map)
                4.ผังก้างปลา (A Fishbone Map)

 1. ผังความคิด (A Mind Map)
        เป็นการแสดงความสัมพันธ์ของสาระหรือความคิดต่างๆ ให้เห็นในภาพรวม โดยใช้เส้นคำ ระยะห่างจากศูนย์กลาง สี เครื่องหมาย รูปทรงเรขาคณิต และภาพ แสดงความหมายและความเชื่อมโยงของความคิดหรือสาระนั้นๆ
                
        มีขั้นตอนหลักๆ ในการทำดังนี้
        1.1  เขียนความคิดรวบยอดหลักไว้ตรงกลาง แล้วแตกสาขาออกไปเป็นความคิดรวบยอด                               ย่อย
        1.2  เขียนคำที่เป็นตัวแทนความหมายของความคิดนั้นๆ ลงไป และใช้รูปทรงเรขาคณิตแสดระดับ                 คำ คำใดอยู่ในขอบเขตหรือระดับเดียวกัน ใช้รูปทรงเรขาคณิตเดียวกันล้อมกรอบคำนั้น
         1.3 ลากเส้นเชื่อมโยงความคิดเพื่อแสดงความสัมพันธ์ของความคิดต่างๆ อาจเป็นเส้นตรงโค้ง 
               ลูกศร เส้นประ
         1.4 ใช้สัญลักษณ์ต่างๆ ให้เป็นตัวแทนความหมายของความคิดและความรู้สึกต่างๆ
         1.5  สร้างผังความคิดให้สมบูรณ์ตามความเข้าใจของตน





2. ยังมโนทัศน์ (A Concept map)
เป็นการแสดงมโนทัศน์หรือความคิดรวบยอดใหญ่ไว้ตรงกลาง และแสดงความสัมพันธ์ ระหว่างมโนทัศน์ใหญ่และย่อยตามลําดับขั้น ด้วยเส้นเชื่อมโยง




3.ผังแมงมุม (A Spider Map)
เป็นการแสดงมโนทัศน์อีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคล้ายใยแมงมุม




4.ผังก้างปลา (A fish borne Map)
เป็นผังที่แสดงสาเหตุของปัญหาซึ่งมีความซับซ้อน ช่วยทําให้เห็นสาเหตุหลักและสาเหตุ ย่อยที่ชัดเจน

อ้างอิง http://59070337g5.blogspot.com/2016/10/blog-post_50.html




เทคนิคตระกูล K
1.KWL
2.KWLplus
3.KWLH
4.KWDL

1.KWL
Know
(รู้อะไรบ้าง)
Want to know
(ต้องการรู้อะไร)
Learned
(เกิดการเรียนรู้อะไร)




ขั้นตอนการเรียนรู้ KWL
1. เลือกบทอ่านที่น่าสนใจหรือบทอ่านที่ผู้เรียนต้องเรียนรู้
2. ทําตาราง KWL ให้กับผู้เรียน
3. ถามผู้เรียนว่ารู้อะไรบ้าง
4. ถามผู้เรียนว่าต้องการรู้อะไรจากเรื่องที่อ่าน (W) แล้วบันทึก
5. ให้นักเรียนอ่านบทอ่านแล้วบันทึกว่ารู้อะไรบ้าง (L) หลังการอ่าน
จุดเด่นของการจัดการเรียนรู้ KWL
1. นํามาใช้เพื่อพัฒนาการอ่านได้ทุกระดับ ทุกรายวิชา
2. นํามาใช้พัฒนาความสามารถในการคิดหรือพัฒนาทักษะการคิดได้

ตัวอย่างการจัดการเรียนรู้ KWL เรื่อง สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ํา
Know
บทอ่านเกี่ยวกับอะไรเรื่องใดบ้าง หรือ รู้อะไรบ้างจากเรื่องที่กำหนด
Want to know
อยากรู้อะไรบ้างจากบทที่อ่านหรือ อยากรู้อะไรเพิ่มเติมจากบทอ่าน
Learned
เรียนรู้อะไรบ้างจากบทอ่าน







2.KWL plus

plus = ทําแผนผังมโนทัศน์

Know
(รู้อะไรบ้าง)
What do we want to learn
(ต้องการรู้อะไร)
What did we Learned
(เกิดการเรียนรู้อะไร)







ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ KWL plus
1. เลือกบทอ่านที่น่าสนใจหรือบทอ่านที่ผู้เรียนต้องเรียนรู้
2. ทําตาราง KWL plus ให้กับผู้เรียน
3. ถามผู้เรียนว่ารู้อะไรบ้าง (K) จากเรื่องที่กําหนดให้ แล้วบันทึก
4. ถามผู้เรียนว่าต้องการรู้อะไรจากเรื่องที่อ่าน (W) แล้วบันทึก
5. ให้นักเรียนอ่านบทอ่านแล้วบันทึกว่ารู้อะไรบ้าง (L)หลังการอ่าน
6. ทําแผนผังมโนทัศน์ (Mind Mapping หรือ Concept Mapping)
จุดเด่นของการจัดการเรียนรู้ KWL plus
1.นํามาใช้เพื่อพัฒนาการอ่านได้ทุกระดับ ทุกรายวิชา
2. นํามาใช้พัฒนาความสามารถในการคิดหรือพัฒนาทักษะการคิดได้
3. นํามาใช้พัฒนาการลําดับขั้นตอนการคิดแบบรวบยอดของผู้เรียนได้

ตัวอย่างการจัดการเรียนรู้ KWL plus
Know
รู้อะไรบ้างจากเรื่องที่อ่าน
 ระบุประเด็นสั้นๆ
What do we want to learn
อยากรู้อะไรจากประเด็นที่ระบุ หรือ ต้องทำอะไร อย่างไรกับประเด็นเหล่านั้น
What did we Learned
จากการอ่านและตอบคำถาม ได้รู้อะไรบ้าง มีอะไรบ้างที่ยังรู้ไม่ชัดเจน








3.KWDL

What we know
(รู้อะไรบ้าง)
What we want to know
(ต้องการรู้อะไร)
What we do
(มีวิธีการหาคำตอบอย่างไร)
What we learned
(เกิดการเรียนรู้อะไรบ้าง)







ขั้นตอนการจัดการเรีนรู้ KWDL
        1.เลือกบทอ่านที่ผู้เรียนต้องเรียนรู้หรือโจทย์ปัญหาคณิตาศาสตร์ที่ต้องทำ
        2.ทำตาราง KWDL ให้กับผู้เรียน
        3.ถามผู้เรยนว่ารู้อะไรบ้าง (K) จากเรื่องที่กไหนดหรือโจทย์ฯแล้วบันทึก
        4.ถามผู้เรียนว่าต้องการรู้อะไรจากเรื่องหรือโจทย์ต้องการรู้อะไร (W) แล้วบันทึก
        5.ให้ผู้เรียนบอกวิธีดำเนินการเพื่อหาคำตอบ (D) จากสิ่งที่ต้องการรู้หรือโจทย์ทใน W
        6.ให้นักเรียนอ่านบทความแล้วอ่านบันทึกว่ารู้อะไรบ้าง (L)หรือคำตอบคืออะไร
จุดเด่นของการจัดการเรียนรู้ KWDL
        1.นำมาใช้เพื่อพัฒนาการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์
        2.นำมาใช้พัฒนาความสามารถในการคิดหรือพัฒนาทักษะการคิดได้
        3.นำมาใช้พัฒนาผู้เรียนในด้านทักษะกระบวนการ

ตัวอย่างการจัดการเรียนรู้ KWDL

What we know
โจทย์บอกอะไรบ้าง
What we want to know
โจทย์ให้หาอะไร
What we do
มีวิธีการหาคำตอบอย่างไร
What we learned
คำตอบที่ได้และวิธีคิด
1................
2...............
3............... 

1................
2...............
3...............
แสดงวิธีทำ
วิธีที่ 1
วิธีที่2 
คำตอบ….......
สรุปขั้นตอน 





4.KWLH

Know
 (รู้อะไรบ้าง)

What to learn
 (ต้องการรู้อะไร)


What they learn as they read
(รู้อะไรบ้างจากการเรียน)

How we can Learned more
 (จะหาความรู้เพิ่มเติมโดยวิธีใด)







ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ KWLH
        1. กําหนดคําหรือเรื่องที่ต้องการจัดการเรียนรู้
        2. ทําตาราง KWLH ให้กับผู้เรียน
        3. ถามผู้เรียนว่ารู้อะไรบ้าง (K) จากคําหรือเรื่องที่กําหนดให้ แล้วบันทึก
        4. ถามผู้เรียนว่าต้องการรู้อะไรจากคําหรือเรื่องที่กําหนดให้ (W) แล้วบันทึก
        5. ให้ผู้เรียนอ่านเรื่องราวจากคําหรือเรื่องที่กําหนดให้แล้วบันทึกว่ารู้อะไรบ้างหลังการอ่าน(L)
        6. ให้นักเรียนระบุว่าจะหาความรู้เพิ่มเติมได้ด้วยวิธีใด (H)
จุดเด่นของการจัดการเรียนรู้ KWLH

        1. นํามาใช้จัดการเรียนรู้ได้ทุกกลุ่มสาระ
        2. นํามาใช้พัฒนาความสามารถในการคิดหรือพัฒนาทักษะการคิดได้
        3. นํามาใช้พัฒนาทักษะการอ่านได้
        4. นํามาใช้ในการให้ผู้เรียนรู้จักวางแผนค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม

ตัวอย่างการจัดการเรียนรู้ KWLH

Know
 รู้อะไรบ้างจากคำว่าไดโนเสาร์

What to learn
 ต้องการรู้อะไรจากเรื่องไดโนเสาร์


What they learn as they read
รู้อะไรบ้างจากการอ่านเรื่องไดโนเสาร์

How we can Learned more
 จะหาความรู้เพิ่มเติมโดยวิธีใด
- ตัวโตมาก
- สูญพันธุ์แล้ว
ฯลฯ

- มีกี่ขนิด
-สูญพันธุ์ได้อย่างไร
- เมืองไทยเคยมีไดโนเสาร์หรือไม่
          ฯลฯ

- กินพืชและสัตว์เป็นอาหาร
- ตัวโตแต่สมองเล็ก
- เมืองไทยเคยขุดพบซากไดโนเสาร์
- วิจัย
- พิพิธภัณฑ์
- ทัศนศึกษา
- อินเทอร์เน็ต
           ฯลฯ





เทคนิคการสอนการคิดสร้างสรรค์โดยใช้ภาพแบบ PWIM (Picture Word Inductive Model)
        ลักษณะสําคัญ คือ ใช้รูปภาพที่สอดคล้องกับสาระวัตถุประสงค์ และวัยของผู้เรียนเป็นสื่อที่ นําไปสู่ การรู้คําศัพท์ วลี ประโยค ข้อความ จนถึงการอ่านและการเขียนที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น โดยมีการฝึก ซ้ําๆ เป็นปริมาณมากๆและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความคิดรวบยอด และหลักการด้วยตนเอง ด้วยวิธีคิดแบบอุปนัย และที่สําคัญเป็นการเรียนรู้ที่เริ่มจากตัวผู้เรียน
วิธีดําเนินการ

        1. เริ่มต้นด้วยการใช้รูปภาพที่ประกอบด้วยวัตถุ สิ่งของ ฉาก เหตุการณ์ สถานการณ์ (ที่นักเรียนรู้จักคุ้นเคย) ให้นักเรียนสังเกต ช่วยกันระบุคําต่างๆ เหตุการณ์ การปฏิบัติที่ปรากฏ ในรูปภาพ (Words and Actions)

        2. ครูโยงภาพกับคําศัพท์ หรือคําที่นักเรียนเสนอ นักเรียนพูดออกเสียงและสะกดคําที่ได้ จากภาพ โดนครูคอยแนะนําแก้ไขให้ออกเสียงให้ถูกต้อง

         3. นักเรียนช่วยกันจัดกลุ่มคํา หรือจัดประเภทคํา หรือคําศัพท์ที่ระบุจากภาพ (ความคิด รวบยอด มีการจําแนก จัดกลุ่ม ขึ้นอยู่กับวัยและระดับประสบการณ์ของนักเรียน)

         4. นักเรียนฝึกเขียนวลี แต่งประโยคจากคําศัพท์ต่างๆ

         5. นักเรียนฝึกเขียนข้อความ ย่อหน้า และเขียนเรื่องจากภาพ ใช้การฝึกอย่างน้อย 20 ครั้ง/เรื่อง)





อ้างอิง
พิจิตรา ธงพานิช. วิชาการออกแบบและการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน. พิมพ์ครั้งที่ 3 นครปฐม : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์, 2560.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น