
สำหรับประเทศไทยได้จัดการเรียนรู้ตามแนวการปฏิรูปการศึกษามาระยะหนึ่ง โดยพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2)พ.ศ.2545 เป็นแม่บทหรือหรือเทศทาง และนำลงสู่การปฏิบัติด้วยการกำหนดเนื้อหาสาระที่เกี่ยวข้อง และสำคัญหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544 และพัฒนาเป็นหลักสูตรสถานศึกษาสำหรับสถานศึกษาแต่ละแห่งตามความเหมาะสมจากผลการจัดการเรียนรู้ตามแนวการปฏิรูปการศึกษานี้ พบว่าบางพื้นที่ยังมีปัญหาอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่นผลการวิจัยของสำราญ ตติชรา (2547,หน้า1) การศึกษาปัญหาการจัดการเรียนการสอนตามแนวปฏิรูปการศึกษาของครูในโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานการประถมศึกษาอำเภอเมืองตรา พบว่าการจัดการเรียนการสอนหรือการจัดการเรียนรู้ตามแนวปฏิรูปการศึกษา ขอครูในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาอำเภอเมืองตราดยังมีปัญหาอยู่หลายประเด็นตามลำดับ คือ การประชาสัมพันธ์การสอน การจัดทำหลักสูตรท้องถิ่นการสอนที่เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ การจัดสภาพแวดล้อมทางการสอน การให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอนด้านประเมินผลตามสภาพจริงการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญการทำวิจัยในชั้นเรียน การให้ผู้เรียนค้นคว้าด้วยตนเองและเมื่อ เปรียบเทียบปัญหาต่างๆในการจัดการเรียนรู้ปรากฏว่าผลของปัญหาไม่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ตามแนวการปฏิรูปการศึกษาจำเป็นจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานเรื่องนี้อย่างถ่องแท้จนสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ้างอิง
ผศ.ดร.พิจิตรา ธงพานิช.วิชาการออกแบบและการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน.นครปฐม : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์, 2560.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น